วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
พระท่ามะปราง พิษณุโลก เนื้อชินเงิน หลังแบบ ลายผ้า "พระเงี้ยวทิ้งปืน"
พระท่ามะปราง พิษณุโลก เนื้อชินเงิน หลังแบบ ลายผ้า พิมพ์ลึก
พระท่ามะปราง องค์อื่นๆ
วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
พระนางกำแพงสามเหลี่ยม พิมพ์ตื้น กรุเจดีย์ลานทุ่งเศรษฐี(นครชุม) กำแพงเพชร เนื้อดินเผา พิมพ์มาตรฐานและพิมพ์จิ๋ว เนื้อชินรัชตาภร
พระนางกำแพงสามเหลี่ยม
ดินเผา พิมพ์มาตรฐาน
พระนางกำแพงสามเหลี่ยม
ดินเผา พิมพ์จิ๋ว
พระนางกำแพงสามเหลี่ยม เนื้อชินรัชตาภร(ชินเงิน)
พระนางกำแพงสามเหลี่ยม
พิมพ์ตื้น กรุเจดีย์ลานทุ่งเศรษฐี(นครชุม) กำแพงเพชร เนื้อดินเผา
พิมพ์มาตรฐานและพิมพ์จิ๋ว เนื้อชินรัชตาภร
ถ้าเป็นกรุของกำแพงเพชร
กรุใดที่ขุดแล้วไม่มีพระนางกำแพงเห็นจะยาก พระนางกำแพงแต่ละกรุก็มีพิมพ์ของตนเอง
พระนางำแพงพิมพ์มาตรฐาน คือพระนางกำแพงพิมพ์ตื้น รายละเอียดสวยงามมาก
ขนาดเล็กกำลังใช้ ใช้ได้ทั้งชายและหญิง มีเนื้อดินเผาสีแดง สีดำ
สีดำอมเขียวสีนี้เกิดจาการฝังกรุที่มีน้ำซึมผ่านได้ง่าย คราบขี้กรุทำให้เกิดสีเขียวอมดำ
พุทธลักษณะ
1.องค์พระปฏิมากรประทับนั่งราบปางมารวิชัย
พระพักตร์ทรงผลมะตูม พระเกศาเรียบ พระเมาลีเป็นมวยเล็ก พระเกศรูปดอกบัวตูม
พระพักตร์เรียบเกลี้ยง ปรากฏเพียงพระเนตรรางๆ ไม่ปรากฏพระกรรณ พระสอเป็นร่องตื้น
2.พระอุระอวบเป็นกล้ามใหญ่
พระอังสากว้าง พระอุทรเรียวคอดเป็นลอน พระพาหาทอดลงกางออกเล็กน้อยข้างลำพระองค์
พระกรขวาหักพระกัประ ยกพระหัตถ์วางกุมพระชานุลักษณะเช่านอก พระกรซ้ายหักพระกัประโค้งเข้าในพระหัตถ์วางหงายบนพระเพลา
3.ประทับนั่งราบ
พระเพลากว้าง พระชงฆ์และพระบาทขวาวางราบเกยบนพระชงฆ์ซ้าย
บนอาสนะยกลอยเป็นเส้นหวายผ่าซีชั้นเดียวยาวตลอดพระเพลา ไม่ปรากฏผ้าปูรองนั่ง
เป็นเพียงร่องตื้นเหนืออาสนะ
4.องค์พระปฏิมากร ออกแบบเป็นประติมากรรมนูนต่ำลอยองค์
ประดิษฐานอยู่ในกรอบรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ด้านพระปฤษฎางค์เป็นพื้นผนังแบนเรียบ
ไม่มีเครื่องประดับตกแต่ง เน้นความบริสุทธิ์แห่งองค์พระ ด้านหลังพระพิมพ์แบนเรียบ
ปรากฏลายนิ้วมือกดพิมพ์เล็กน้อย
ความหนาของพระพิมพ์จัดว่าเป็นพระเครื่องดินเผา ที่บางที่สุด
ยุคสมัย
ศิลปะและผู้สร้าง
ศิลาจารึกนครชุม(ทุ่งเศรษฐี)
และจารึกแผ่นลานเงิน กำหนดารสร้างพระเครื่องของกำแพงเพชรว่า สร้างในปี พ.ศ.1900
อันเป็นปีที่พระมหาธรรมราขาลิไท สถาปนาวัดพระบรมธาตุ นครชุม
ได้จัดสร้างพระเครื่องบรรจุกรุไว้ในพระเจดีย์ มีอายุการสร้างถึงปัจจุบัน 600
กว่าปี เปิดกรุวัดพระบรมธาตุเมื่อปีพ.ศ.2392 เป็นครั้งแรก
ต่อจากนั้นได้มีการขุดหาพระกำแพงตามกรุต่างๆ ณ ลานทุ่งเศรษฐี นครชุมเรื่อยมาอย่างกว้างขวาง
ปีพ.ศ.2470 การขุดค้นพระเครื่องเป็นไปอย่างจริงจัง จนปีพ.ศ.2520
พระเครื่องกรุทุ่งเศรษฐี ได้เริ่มมีผู้สนใจเสาะหากันมากยิ่งขึ้น
พระพิมพ์นางกำแพงสามเหลี่ยม พิมพ์ตื้นนี้ เป็นพระพิมพ์สกุลกำแพงเพชร
ศิลปะสุโขทัยคลาสสิกยุคกลางมีศิลปะเชียงแสนคลาสสิกเกศรูปดอกบัวตูม
ป้อมสั้นเข้ามาผสมอยู่ด้วย ทำให้พระนางกำแพงนั้น คือพุทธศิลป์
ยอดปฏิมากรรมโบราณอันสูงค่าซึ่งศิลปินแห่งสกุลช่างกำแพงเพชรได้จินตนาการผนึกไว้ในพระพิมพ์นี้ด้วยศิลปะ”สุโขทัย”
ไว้อย่างยอดเยี่ยมงดงามยิ่ง
มวลสารและวัสดุใช้สร้าง
เนื้อดินเผา วัสดุส่วนใหญ่คือดินละเอียด
มีแร่ดอกมะขามปนอยู่ด้วย บดและกรองเอาเม็ดกรวดแร่ออกหมด
ผสมว่านพืชที่มีคุณวิเศษตามตำราโบราณ สร้างเป็นพระพิมพ์ดินเผาสีแดง
เนื้อละเอียดนุ่มจัดเป็นด้วยแก่ว่านผสมไว้มากจึงดูนุ่มนวลกว่าพระพิมพ์แบบอื่น
ปรากฏแร่ดอกมะขามเป็นจุดแดงเล็กๆลอยขึ้นบนผิว
ขี้กรุเป็นคราบดินสีเทานวลฉาบติดบนผิวตามซอกลึก
พิมพ์มาตรฐาน ฐานกว้าง
1.8 ซม. สูง 2.6 ซม. หนา 0.3 ซม.
พิมพ์จิ๋ว ฐานกว้าง 1.3
ซม. สูง 1.7 ซม. หนา .3 ซม.
เนื้อชินรัชตาภร
คือชินเงิน เป็นส่วนผสมของตะกั่วกับดีบุก
หลอมรวมเข้าด้วยกันสร้างพระพิมพ์รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว
พุทธลักษณะเหมือนกับเนื้อดินเผา มีสนิมกาฬภัสสร์บนผิว
เป็นสนิมตีนกามีวรรณะสีดำเข้มจัดเป็นเงามัน ปกคลุมด้วยสนิมวปาภัสสร์ เกิดจากหินปูนในดินผสมเข้ากับสนิมของเนื้อชิน
จับตัวแน่นหลายชั้นหนาติดกันเป็นพืด กลายเป็นสนิมมีไขแข็งแกร่ง
ยาแก่การทำความสะอาดขูดแคะออก
ขนาด ฐานกว้าง 1.8 ซม.
สูง 2.6 ซม. หนา 0.4 ซม.
พุทธคุณ
กฤตยาคมอันกึกก้องจากของขลังในลานทุ่งเศรษฐีนี้ทั้งหมด 80%
ประสบการณ์ปรากฏแก่ผู้ใช้ มักได้รับแต่ในด้านเมตตามหานิยม
เรื่องโชคลาภจากทรัพย์สินเงินตรา นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องน่าแปลใจคือ
พระนางกำแพงได้เคยมีผู้ประสบอุบัติเหตุมาแล้ว ถึงขนาดรถคว่ำมีผู้คนตายเกลื่อนกลาด
แต่ผู้ที่ห้อยพระนางกำแพงกลับมิได้รับลาดแผลแต่ประการใดเลย
จึงนับว่าคุณวิเศษของพระนางกำแพงมิใช่มีดีเฉพาะทางมหานิยมโชคลาภเท่านั้น
แม้การปกป้องชีวิตท่าน ก็สามารถช่วยเราได้ด้วยเช่นกัน
พระนางกำแพง องค์อื่นๆ
พระนางกำแพง พิมพ์ใหญ่ ดินเผา
กรุวัดเจดีย์กลางทุ่ง(นครชุม) กำแพงเพชร วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
พระนางกำแพง
พิมพ์เล็ก กำแพงเพชร วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
พระกำแพงเม็ดมะลื่น ดินเผาสีแดง ดินเผาสีดำ กรุทุ่งเศรษฐี(นครชุม) กำแพงเพชร
พระกำแพงเม็ดมะลื่น ดินเผาสีดำ
พระกำแพงเม็ดมะลื่น ดินเผาสีแดง
พระกำแพงเม็ดมะลื่น
ดินเผาสีแดง ดินเผาสีดำ กรุทุ่งเศรษฐี(นครชุม) กำแพงเพชร
พุทธลักษณะ พระกำแพงเม็ดมะลื่น คือพระกำแพงกลับบัวธรรมดา
แต่พัฒนาปีกให้กว้างใหญ่ขึ้น ด้านหลังอูมทำนูนโค้งทุกองค์
ลักษณะดังกล่าวนี้จึงทำให้พระกำแพงเม็ดมะลื่นงดงาม และเด่นไปกว่าพระกำแพงกลีบบัว
พบครั้งแรกที่วัดบรมธาตุ ลานทุ่งเศรษฐี เมื่อพ.ศ. 2392 และที่วัดพิกุล เมื่อพ.ศ.2496
นับเป็นพระที่หายากพิมพ์หนึ่ง
1.องค์พระประทับนั่งราบ
ปางมารวิชัย พระเศียรรูปไข่ พระศกเรียบ พระเกศรูปดอกบัวตูมทรงสูงเรียวแหลม
พระพักตร์รูปไข่ ปรากฏพระเนตรและพระนาสิก พระศอเป็นร่อง
2.พระอุระอวบอูมใหญ่
พระอุทรคอดเป็นลอน เข้าลักษณะคนมีพละกำลัง แต่ไม่ใช่แบบกล้ามเกร็ง
พระพาหาทั้งสองทอดลง พระกรขวาหักพระกัประยกขึ้น
พระหัตถ์วางคว่ำกุมพระชานุลักษณะเข่านอก พระกรซ้ายหักพระกัประพับเข้าใน
พระหัตถ์วางหงายบนพระเพลา
3.พระเพลากว้าง
พระชงฆ์และพระชานุสมส่วนไม่ใหญ่ไม่เล็ก ประทับนั่งราบ
พระชงฆ์และพระบาทขวาวางราบบนพระชงฆ์ซ้าย
ในอิริยาบถนั่งสบายบนอาสนะเป็นเส้นหวายผ่าซีก
4.องค์พระเป็นปฏิมากรรมนูนต่ำ
ประดิษฐานภายในกรอบรูปกลีบบัวปีกกว้างยอดมน ไม่มีลวดลายอื่นใดประดับ
ยุคสมัย
ศิลปะและผู้สร้าง
พระกำแพงเม็ดมะลื่น(ภาคกลางเรียกเม็ดกะบก) เป็นพระพิมพ์ทุ่งเศรษฐีสกุลกำแพงเพชร
ศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ พุทธศตวรรษที่ 19 อายุ 600 กว่าปี โดยพระมหาธรรมราชาที่1
(ลิไท) พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 ราชวงศ์พระร่วง แห่งกรุงสุโขทัย
เป็นผู้ให้กำเนิดไว้ที่วัดพระบรมธาตุ ลานทุ่งเศรษฐี นครชุม เป็นปฐมฤกษ์
ต่อมาในสมัยหลัง ก็สร้างขึ้นใหม่อีกในรูปแบบเดียวกันเรื่อยมา รูปพระพิมพ์จะมีรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง
แต่โดยรวมแล้วมีเอกลักษณ์เหมือนกัน
มวลสารใช้สร้าง วัสดุที่ผสมส่วนใหญ่คือดิน
ดินของแต่ละแห่งใช่ว่าจะเหมือนกัน แร่ธาตุที่มีอยู่ในดิน เมื่อเผาแล้วจะเกิดเนื้อพระสวยงามแตกต่างกัน
เนื้อดินกำแพงเปรียบเทียบหรือเข้าลักษณะ เมื่อเผาแล้วมีสีสันสวยงามน่าใช้
วงการนิยมว่า “ดูง่าย” การผสมเนื้อพระ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือพืชว่านเข้ากับดิน
ทำให้เกิดสภาพเนื้อแตกต่างกับการเผาดินธรรมดา
เนื้อพระกำแพงจึงดูนุ่มตามากกว่าเนื้อพระแห่งอื่น
การเผาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดเนื้อที่แตกต่างกัน
เนื้อพระกำแพงใช้ความร้อนปานกลางและอ่อนอยู่ในลักษณะเนื้อละเอียดอัดแน่นเข้าตำรา
“เนื้อผง” จะหาเนื้อละลายยาก มีพระไม่กี่แบบที่ใช้ไฟแรงจนเนื้อละลาย
การเผาไฟอ่อนเกินไป ทำให้เนื้อไม่แน่น เมื่อนำออกจากกรุ ต้องระวังให้มาก
บางองค์จะเห็นรอยระแหงเหี่ยวย่น คล้ายเอาเนื้อดินผสมปนว่านดิบๆ ทำแล้วตากตาก
เมื่อผิวแห้งหดตัวเนื้อในแห้งไม่ทัน
ความชื้นในเนื้อจะดันผิวที่แห้งก่อนจะกลายเป็นรอยระแหง ซึ่งมักจะพบในเนื้อสีดำบ่อยๆ
คนโบราณกล่าวว่า
พระกำแพงเพชรผสมว่านมาก ดูจะเป็นความจริงที่น่าคิด การผสมพืชเข้าเนื้อพระ
ความประสงค์ก็อยากได้คุณสมบัติวิเศษของพืชให้ดำรงไว้ด้วย
การเผาแค่เป็นถ่านหรือเป็นสีดำ หรือสีหม่นปนเขียวว่านยังมีคุณภาพ
แต่จะบังคับให้พระทุกองค์อยู่ในลักษณะ เนื้อเหมือนกันหมด ย่อมไม่ได้
พระเนื้อแดงจึงมีอยู่ไม่น้อย และพระสีดำก็มีมาก แต่เนื่องจากความแกร่งน้อย
พระจึงเสียมาก สมัยกลางคงจะวิวัฒนาการด้านการสร้างพระให้มีคุณวิเศษสูง
จึงต้องทิ้งการใช้ความร้อนสูงเพื่อให้ละลาย
พระที่ใช้ความร้อนต่ำจึงได้รับความนิยมตามสายตานักพระเครื่อง
ขนาด ส่วนกว้าง 2.2 ซม.
สูง 3 ซม. หนา 0.6 ซม.
พุทธคุณ โชคลาภ เมตตา แคล้วคลาด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)