วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เหรียญสี่เหลี่ยมฝาบาตรหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว รุ่น 2 เนื้อทองแดง ปี 2496 สมุทรปราการ

 

ธนบัตร 10 บาท ร.9 แบบที่9 พ.ศ. 2511



ธนบัตร 10 บาท รัชกาลที่ 9 แบบที่ 9 พิมพ์ที่บริษัทโทมัส เดอ ลา รู เริ่มใช้เมื่อ พ.ศ. 2511

เหรียญกษาปณ์ 1 บาท ร. 9 พ.ศ. 2529-2559


วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง พิมพ์หน้าเทวดา (สิบเอก) สุพรรณบุรี

 

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง พิมพ์หน้าเทวดา (สิบเอก) สุพรรณบุรี

พุทธลักษณะ ประทับนั่งราบ ปางมารวิชัย ภายในประภามณฑลซุ้มเรือนแก้วเป็นเส้นลวดเส้นเดี่ยวเป็นรัศมีตามรูปองค์พระ ขอบซุ้มส่วนบนประดับด้วยใบระการูปดอกบัวตูม  องค์พระมีพระวรกายผอมเรียว พระเศียรกลม พระเกศาเรียบ พระเมาลีเป็นมวยสองชั้น พระเกศรูปดอกเข็มตูม ไรพระศกเป็นกรอบพระพักตร์ ปรากฏพระขนง พระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์ พระกรรณรูปบายศรียาวจรด พระอังสา พระอุระกว้าง พระอุทรคอด ครองจีวรห่มคลุมเปิดไหล่ขวา สังฆาฏิพาดยาวถึงพระนาภี พระพาหา-พระกรขวาทอดลง พระหัตถ์ประคองกุมพระชานุลักษณะเข่าใน พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา ประทับนั่งราบ พระชงฆ์ขวาวางบนพระชงฆ์ซ้ายลักษณะลอยองค์ไม่มีอาสนะ กรอบรูปสามเหลี่ยมกลีบบัว

1.วัสดุใช้สร้าง พระพิมพ์เนื้อละเอียดดินป่นละเอียดเต็มไปด้วยแร่ดอกมะขามเป็นหลัก การกรองดินเป็นชั้นหนึ่งผสมกับว่าน ใส่กาวและน้ำนวดเข้ากันให้อ่อน เหนียวข้นเหมือนดินน้ำมัน ปั้นกดลงแม่พิมพ์แคะออกปาดขอบข้าง ตากให้แห้ง เผาไฟอุณหภูมิ 900 องศาเซลเซียส ได้พระพิมพ์ดินเผาสีแดง เนื้อละเอียด แข็งแกร่ง ผิวเป็นคลื่นเห็นจะทั่วไป แร่ดอกมะขามเป็นจุดเท่าปลายเข็มกระจายทั่วองค์พระ มีกรวดแร่ลอยบนผิวบางตาไม่มากเหมือนพระเนื้อหยาบ ผิวหนึกนุ่ม คราบไคลขี้กรุเป็นผงดินละเอียดสีเหลืองอ่อนนวลติดตามซอกลึกและเคลือบติดด้านหลังบางๆ ด้านหลังแบนเป็นคลื่นมีรอยเสี้ยนไม้เป็นเส้นยาว กรวดเม็ดเล็กจมผิวเป็นผด
ขนาด กว้างฐาน 3 ซม. สูง 5 ซม. หนาขอบ 6 มม.

2.ยุคสมัยศิลปะและผู้สร้าง เป็นพระพิมพ์สมัยอยุธยาพุทธศตวรรษที่ 22 อายุราว 400 ปี สร้างในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารหาญที่เสียชีวิตในการศึกสงครามกับทัพพม่า สมัยทำยุทธหัตถีบนหลังช้างกับพระมหาอุปราชาที่ยกทัพเข้ามารุกราน บรรจุกรุ ณ วัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี

พุทธคุณ คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม


พระขุนแผน (ทุกกรุ) พิมพ์อื่นๆ






พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง พิมพ์ทรงพลใหญ่ สุพรรณบุรี

 

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง พิมพ์ทรงพลใหญ่ สุพรรณบุรี

พุทธลักษณะ ประทับนั่งราบ ปางสมาธิ พระวรกายอวบใหญ่ พระเศียรกลม พระเกศาเรียบ มวยพระเมาลีเป็นเป็นลอน พระเกศรูปดอกเข็มตูมเรียวแหลม มีเส้นไรพระศกเป็นกรอบพระพักตร์ พระพักตร์รูปสามเหลี่ยมคางมน ปรากฏพระขนง พระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์ พระกรรณรูปบายศรียาวจรดพระอังสา พระอุระกว้างใหญ่ล่ำเหมือนนักกล้าม พระอุทรเรียวคอดกิ่วครองจีวรห่มคลุมเปิดไหล่ขวา สังฆาฏิพาดยาวถึงพระนาภี พระพาหาทั้งสองข้างทอดลงกางออก หักพระกัประ พระกรพับเฉียงลง พระหัตถ์ประสานกันวางบนพระเพลา ประทับนั่งราบ พับพระชงฆ์ขวา หงายพระบาทวางบนหัวเสาสูงระดับพระอังสา ฐานซุ้มเป็นกระจังหัวกนก ประภามณฑลซุ้มเรือนแก้วเป็นเส้นคู่ยกขึ้นขยักเว้าตามรูปพระเศียร ขอบซุ้มประดับด้วยใบระการูปกลีบบัว กรอบพระพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยม ขอบข้างสอบขึ้นโค้งเป็นรูปสามเหลี่ยม

1.วัสดุใช้สร้าง ดินป่นละเอียดเต็มไปด้วยฝุ่นผงแร่ดอกมะขามเป็นหลัก การกรองดินเป็นชั้นสองจึงมีกรวดแร่อยู่มาก ผสมเข้ากับว่าน ใส่กาวและน้ำนวดให้อ่อนเหนียวข้น เป็นเนื้อเดียวเหมือนดินน้ำมัน ปั้นเป็นก้อพอเหมาะกดลงแม่พิมพ์ ใช้แผ่นไม้กดคลึงให้แน่นเต็มพิมพ์ แคะถอดออกปาดขอบข้างด้วยของของมีคมสอบลงด้านหลัง ตากในร่มให้แห้ง เผาไฟอุณหภูมิ 850 องศาเซลเซียส ได้พระพิมพ์ดินเผาสีแดงส้ม เนื้อหยาบ ผิวเรียบแข็งแกร่ง กรวดแร่ลอยบนผิวหนาตา แร่ดอกมะขามกระจายเป็นจุดสีแดงเท่าปลายเข็มทั่วไป จุดโตจะกระจายเป็นวงแดงคราบไคลขี้กรุเป็นผงดินละเอียดสีเหลืองอ่อนนวลติดตามซอกลึกและมีราดำชนิดหนึ่งงอกเป็นเส้นยาวและเป็นแผ่นอยู่ทั่วไปด้านหลังแบนเรียบเป็นคลื่นมีลอยเสี้ยนไม้เป็นเส้นยาว
ขนาด กว้างฐาน 3.5 ซม. สูง 5.5 ซม. หนาขอบ 8 มม.

2.ยุคสมัยศิลปะและผู้สร้าง เป็นพระพิมพ์สมัยอยุธยาพุทธศตวรรษที่ 22 อายุราว 400 ปี พุทธศิลป์อยุธยาบริสุทธิ์ สร้างในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พ.ศ.2137 เป็นพระดินเผามีทั้งชนิดเนื้อหยาบและเนื้อละเอียดที่เนื้อนุ่มแล้ว ยังลงรักปิดทองแต่ในกรุเลยก็มี พระวัดบ้านกร่างสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระเอกาทศรถ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารหาญที่เสียชีวิตในการศึกสงครามกับกองทัพพระมหาอุปราชา จึงทรงรับสั่งให้ทหารช่างศิลป์ที่ระดมมาในกองทัพและแกะแม่พิมพ์สร้างพระตามความสามารถของตน พุทธลักษณะเป็นพระเดี่ยวก็มี คู่แฝดก็มีจำนนมากพิมพ์ ฝีมือจะแตกต่างกันบ้าง แต่ไม่ทิ้งเค้าศิลปะอยุธยาอันเป็นศิลปะยุคต้น เมื่อสร้างเสร็จได้จำนวนมากตามต้องการแล้ว ก็ให้คณาจารย์ผู้ทรงอภิญญาทำพิธีพุทธาภิเสก ทำบรรจุกรุวัดบ้านกร่าง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทรงกระทำยุทธหัตถี

พุทธคุณ พระกรุวัดบ้านกร่าง มีประสบการณ์เมื่อเอาติดตัวไป ปรากฏภินิหารทั้งในด้านคงกระพัน แคล้วคลาดปราศจากภัย เมตตามหานิยม

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระลีลาวัดถ้ำหีบ เนื้อชิน สุโขทัย

 

พระลีลาวัดถ้ำหีบ เนื้อชิน สุโขทัย

พระลีลากรุ “วัดถ้ำหีบ” พบอยู่ในถ้ำวัดหีบเป็นครั้งแรก เมื่อพ.ศ.2493 ต่อมาได้พบอีกภายหลัง ที่กรุวัดเขาพระบาทใหญ่ กรุวัดเขาพระบาทน้อย กรุวัดเขาเจดีย์งาม และกรุวัดเขาตะพาน เป็นพระพิมพ์เนื้อชินและเนื้อดินเผา

พุทธลักษณะ เป็นพระพิมพ์ปางลีลาที่สวยงามมากที่สุด ประทับยืนบนอาสนะชั้นเดียวหนา พระพักตร์รูปผลมะตูม หันพระวรกายก้าวย่างไปทางซ้าย หันพระพักตร์ตรง ปรากฏพระขนง พระเนตร พระนาสิก พระโอษฐ์ พระกรรณทอดอ่อนช้อย แนบพระปราง พระเกศาและพระเมาลีเป็นเม็ดกลม พระเกศเปลวเพลิงยอดแหลม พระศอเป็นลอนสองเส้น พระอุระนูนหนา ครองจีวรแนบเนื้อห่มคลุมเปิดไหล่ขวา สังฆาฏิพาดยาวถึงพระอุทร ชายจีวรคลุมถึงข้อพระบาท ปรากฏรอยผ้ารัดประคดเป็นริ้วสองเส้น พระกรขวาทอดลงอ่อนช้อยคล้ายงวงไอยรา พระพาหาซ้ายทอดลง หักพระกัประ พระกรยกขึ้น หงายพระหัตถ์ไปข้างหน้าแนบพระอุระ พระโสณีเรียวกลม พระบาทซ้ายประทับวางเต็มบนพื้น พระบาทขวาปลายนิ้วพระบาทแตะพื้น ส้นพระบาทยกเฉียง งอพระชงฆ์พองาม องค์พระประทับลีลาในกรอบนูนรูปใบข้าว และมีปีกยื่นออกไปเล็กน้อยสำหรับเนื้อดินเผา   

1.วัสดุใช้สร้างพระพิมพ์เนื้อชิน ใช้ตะกั่วและดีบุก หลอมละลายผสมด้วยกัน เทลงในเบ้าแม่พิมพ์ ใช้ผ้าเนื้อหยาบมัดเป็นตุ้มกดคลึง ก่อนที่โลหะผสมจะเย็นแข็งตัว แคะออกจากแม่พิมพ์ ปาดขอบข้างออกให้พอดีกับกรอบหน้า ด้านหลังแอ่นเป็นท้องกระทะ มีลายผ้าเนื้อหยาบประปราย ผิวปรอทขาววับ(ความจริงเป็นดีบุก) เมื่ออกจากกรุใหม่ๆ จับต้องไม่ระมัดระวัง น้ำมัน-เหงื่อและขี้ไคลในมือจะเคลือบติดบนผิว ทำความสะอาดไม่เป็นและเก็บรักษาไม่ถูกต้อง ทำให้ผิวขาววับเปลี่ยนไป กลายเป็นผิวดำในที่สุดไม่กลับคืน
ขนาด กว้างฐาน 2.2 ซม. สูง 8.5 ซม.

2.ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง เป็นพระพิมพ์ยุคสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 18 อายุ 800 ปี เป็นศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ เป็นพระเครื่องสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยช่างศิลป์หลวงสร้างถวาย เข้าพิธีพุทธาภิเษกโดยคณาจารย์ผู้ทรงอภิญญา ทรงมีพระประสงค์แจกจ่ายให้บรรดาข้าราช บริพารทั้งทหาร พลเรือนและประชาชน เป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีปราบดาภิเษกและฉลองพระราชธานีของพระองค์เป็นมโหฬาร ส่วนอีกจำนวนหนึ่งโปรดให้บรรจุไว้ในกรุต่างๆ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
ปีพ.ศ.2493 ชาวจีนอายุกลางคนอาชีพขายมูลค้างค้าว ขึ้นไปสถานที่ตั้งวัดโบราณบนภูเขาเรียกว่า “วัดถ้ำหีบ” มีค้างคาวอาศัยในถ้ำจำนวนมาก เมื่อเข้าไปในถ้ำเก็บมูลค้างคาว ได้พบไหดินเผาใบเขื่องหลายใบวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ ภายในบรรจุพระพิมพ์เต็มไห จึงลำเลียงออกมาบรรทุกเกวียนกลับบ้าน ได้พระพิมพ์ปางลีลานับหมื่นองค์ และหลบหนีไปพร้อมพระทั้งหมดเข้ากรุงเทพฯ นำไปจำหน่ายในสนามพระเครื่อง

พุทธคุณ ปลุกเสกโดยพระสงฆ์อรัญวาสีผู้ปฏิบัติวิปัสสนาธรรม ให้มีความก้าวหน้า แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงและเมตตามหานิยม 



พระลีลา องค์อื่นๆ






พระลีลาวัดถ้ำหีบ เนื้อดินเผา สุโขทัย

  

พระลีลาวัดถ้ำหีบ เนื้อดินเผา สุโขทัย

พระลีลากรุ “วัดถ้ำหีบ” พบอยู่ในถ้ำวัดหีบเป็นครั้งแรก เมื่อพ.ศ.2493 ต่อมาได้พบอีกภายหลัง ที่กรุวัดเขาพระบาทใหญ่ กรุวัดเขาพระบาทน้อย กรุวัดเขาเจดีย์งาม และกรุวัดเขาตะพาน เป็นพระพิมพ์เนื้อชินและเนื้อดินเผา

พุทธลักษณะ เป็นพระพิมพ์ปางลีลาที่สวยงามมากที่สุด ประทับยืนบนอาสนะชั้นเดียวหนา พระพักตร์รูปผลมะตูม หันพระวรกายก้าวย่างไปทางซ้าย หันพระพักตร์ตรง ปรากฏพระขนง พระเนตร พระนาสิก พระโอษฐ์ พระกรรณทอดอ่อนช้อย แนบพระปราง พระเกศาและพระเมาลีเป็นเม็ดกลม พระเกศเปลวเพลิงยอดแหลม พระศอเป็นลอนสองเส้น พระอุระนูนหนา ครองจีวรแนบเนื้อห่มคลุมเปิดไหล่ขวา สังฆาฏิพาดยาวถึงพระอุทร ชายจีวรคลุมถึงข้อพระบาท ปรากฏรอยผ้ารัดประคดเป็นริ้วสองเส้น พระกรขวาทอดลงอ่อนช้อยคล้ายงวงไอยรา พระพาหาซ้ายทอดลง หักพระกัประ พระกรยกขึ้น หงายพระหัตถ์ไปข้างหน้าแนบพระอุระ พระโสณีเรียวกลม พระบาทซ้ายประทับวางเต็มบนพื้น พระบาทขวาปลายนิ้วพระบาทแตะพื้น ส้นพระบาทยกเฉียง งอพระชงฆ์พองาม พระองค์คอดเล็กน้อย องค์พระประทับลีลาในกรอบนูนรูปใบข้าว และมีปีกยื่นออกไปเล็กน้อยสำหรับเนื้อดินเผา

1.วัสดุใช้สร้าง เนื้อดินละเอียดมีแร่ทรายเงินทรายทองผสมในเนื้อดิน ไม่มีเม็ดกรวด-ทรายขนาดใหญ่ แม้แต่แร่ดอกมะขาม เมื่อได้ส่วนผสมตามต้องการแล้ว กดลงในแม่พิมพ์ แคะออกปาดขอบให้มีปีกยื่นออกจากกรอบเล็กน้อย ตากในร่มให้แห้ง เผาไฟด้วยอุณหภูมิ 850 องศาขึ้นไป ได้พระพิมพ์ดินเผาสีแดงส้ม ผิวเรียบ เนื้อละเอียดแห้งจัด แข็งแกร่ง คราบไคลขี้กรุเป็นผงดินละเอียดสีขาวนวล  มีจุดดำๆของแร่กรวดทรายละเอียด ทรายเงิน ทรายทอง จับอยู่บนผิวโดยทั่วไป ด้านหลังแบนมีลายมือ ขนาดภายในกรอบแม่พิมพ์ กว้างฐาน 2.2 ซม. สูง 8.5 ซม.

2.ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง เป็นพระพิมพ์ยุคสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 18 อายุ 800 ปี เป็นศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ เป็นพระเครื่องสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยช่างศิลป์หลวงสร้างถวาย เข้าพิธีพุทธาภิเษกโดยคณาจารย์ผู้ทรงอภิญญา ทรงมีพระประสงค์แจกจ่ายให้บรรดาข้าราช บริพารทั้งทหาร พลเรือนและประชาชน เป็นที่ระลึกในงานพระราชพิธีปราบดาภิเษกและฉลองพระราชธานีของพระองค์เป็นมโหฬาร ส่วนอีกจำนวนหนึ่งโปรดให้บรรจุไว้ในกรุต่างๆ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
ปีพ.ศ.2493 ชาวจีนอายุกลางคนอาชีพขายมูลค้างค้าว ขึ้นไปสถานที่ตั้งวัดโบราณบนภูเขาเรียกว่า “วัดถ้ำหีบ” มีค้างคาวอาศัยในถ้ำจำนวนมาก เมื่อเข้าไปในถ้ำเก็บมูลค้างคาว ได้พบไหดินเผาใบเขื่องหลายใบวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ ภายในบรรจุพระพิมพ์เต็มไห จึงลำเลียงออกมาบรรทุกเกวียนกลับบ้าน ได้พระพิมพ์ปางลีลานับหมื่นองค์ และหลบหนีไปพร้อมพระทั้งหมดเข้ากรุงเทพฯ นำไปจำหน่ายในสนามพระเครื่อง

พุทธคุณ ปลุกเสกโดยพระสงฆ์อรัญวาสีผู้ปฏิบัติวิปัสสนาธรรม ให้มีความก้าวหน้า แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงและเมตตามหานิยม 


พระลีลา องค์อื่นๆ






พระนางแขนอ่อน กรุวัดเจดีย์สูง สุโขทัย

 

พระนางแขนอ่อน กรุวัดเจดีย์สูง สุโขทัย

พุทธลักษณะ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ พระวรกายเรียวยาว พระพักตร์รูปไข่ ปรากฏพระขนง พระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์ พระกรรณยาวแนบพระปราง พระเกศาและพระเมาลีเรียบ พระเกศเปลวเรียวแหลม พระศอตื้น พระอุระกว้าง พระอุทรคอด ครองจีวรแนบเนื้อห่มคลุมเปิดไหล่ขวา พระกรขวาทอดลงอ่อนช้อยคล้ายงวงไอยรา พระหัตถ์วางคว่ำกุมพระชานุลักษณะเข่าใน  พระพาหาและพระกรซ้ายโค้งพับเข้าใน พระหัตถ์วางหงายบนพระเพลา ประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระชงฆ์ขวาพับเข้าในหงายพระบาทบนพระชงฆ์ซ้าย องค์พระลอยองค์อยู่ภายในกรอบสามเหลี่ยมหน้าจั่วทรงสูงขยักเว้าเข้าในที่พระอังสาและพระเมาลี ด้านหลังอูมนูนเป็นคลื่น มีลายนิ้วมือ

1.วัสดุใช้สร้าง ดินละเอียดมีแร่ทรายเงินทรายทอง ผสมผงและว่านบดกรองละเอียด ใส่กาวและน้ำนวดให้อ่อนเหนียวเหมือนดินน้ำมัน ปั้นเป็นก้อนกลมกดลงแม่พิมพ์ แคะออกปาดขอบข้าง ตากแห้ง เผาไฟอุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส ได้พระดินเผาสีแดงอ่อน เนื้อละเอียดแข็งแกร่ง ผิวเรียบ คราบไคลขี้กรุเป็นผงดินละเอียดสีเทาและผงดินปูนสีขาวติดตามซอก
ขนาด กว้างฐาน 2 ซม. สูง 3 ซม.

2.ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง เป็นพระพิมพ์สมัยสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 18 อายุ 800 ปี ศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ สร้างโดยช่างศิลป์หลวงตามบัญชาของผู้ปกครอง บรรจุกรุวัดมหาธาตุฯ และถูกค้นพบมาก่อนแต่ไม่มากนัก ถึงพ.ศ.2508 ได้มีพระพิมพ์นางแขนอ่อนขึ้นจากกรุวัดเจดีย์สูงอย่างมากมาย ทั้งชนิดเนื้อดินและเนื้อชิน ต่อมาพบพระจากพิมพ์นี้อีกที่กรุวัดเขาพระบาท และกรุวัดเจดีย์งามอีกแต่ไม่มากนัก มีพิมพ์เหมือนกันแยกไม่ออก จึงอนุโลมเรียก “กรุเจดีย์สูง” มีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก

พุทธคุณ แคล้วคลาด เมตตามหานิยม

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระสมเด็จวัดระฆังฯ ผงขาวเนื้อกระเบื้อง พิมพ์ขนมเปียะ

 

พระสมเด็จวัดระฆังฯ ผงขาวเนื้อกระเบื้อง พิมพ์ขนมเปียะ (มีน้อยมาก หายาก) วัดระฆังโฆสิตาราม  ธนบุรี กรุงเทพมหานคร

พุทธลักษณะ องค์พระประทับนั่งราบ ปางสมาธิ บนฐานชุกชี 3 ชั้น ชั้นบนทรงกระบอกยาวตัน ชั้นกลางเป็นแท่นขาสิงห์รูปคมขวาน ชั้นล่างเป็นแท่นแบนหนาปลายทั้งสองตัดสอบขึ้นบน องค์พระมีพระวรกายเรียวยาว พระพักตร์รูปไข่เรียบเกลี้ยง พระเศียรกลม พระเกตุมาลาเรียวยาวแหลมทะลุครอบแก้ว พระศอเป็นลำยาว พระพาหา-พระกรทอดโค้งลงเข้าใน พระหัตถ์วางประสานกันลักษณะทรงสมาธิ ผนังหลังองค์พระราบเรียบ ไม่มีเครื่องประดับตกแต่งอื่นใด ทั้งหมดรวมอยู่ในซุ้มครอบแก้ว เส้นหวายผ่าครึ่ง กรอบนอกเป็นกรอบกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหลังพระพิมพ์แบนเรียบ

1.วัสดุใช้สร้าง ผงหินปูนเปลือกหอยเผาเป็นหลัก ผงวิเศษทั้งห้าได้แก่ ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห และผงพุทธคุณ ข้าวสุกก้นบาตร อาหารคำไหนอร่อย ท่านคายออกมาผสม เกสรและเถ้าธูปบูชาพระทั้งหมดตากแห้ง นำมาคลุกเข้าด้วยกัน โขลกตำให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียว ใส่กาวหนังและน้ำนวดให้เหนียวเหมือนดินน้ำมัน ปั้นเป็นก้อนพอเหมาะ วางใส่ลงแม่พิมพ์กดทับด้วยวัสดุแผ่นเรียบให้เต็มพิมพ์ถอดออกหงายด้านขึ้นไม่ตัดขอบ ผึ่งในที่ร่มให้แห้งสนิท ได้พระพิมพ์ผงขาวเหมือนกระเบื้องโปนเลน แข็งแกร่ง ผิวเป็นมันวาว ใช้กล้องขยาย 10 เท่าส่องดูเห็นมวลสารเล็กละเอียด ได้แก่สีขาวของของปูนเปลือกหอย และดินสอพองของผงวิเศษทั้ง 5 สีขาวใสขุ่นจากข้าวสุก สีนำตาลจากเกสรดอกไม้ สีดำจากเถ้าธูป สีแดงสดเปลือกพริกจากอาหาร
ด้านหลังผิวเรียบเป็นมัน กรอบกลมรีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.5 x 5 ซม. เส้นขอบข้างแตกเป็นริ้วหนา 4 - 5 มม. กรอบกระจกสี่เหลี่ยม ขนาด กว้างฐาน 2.5 ซม. สูง 3.7 ซม.

2.ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง เป็นพระพิมพ์สมัยรัตนโกสินทร์ยุคกลาง พุทธศตวรรษที่ 25 เป็นศิลปะผสม 3 แบบประยุกต์เข้าด้วยกัน ได้แก่ ศิลปะทวาราวดีองค์พระครองจีวรแนบเนื้อ ไม่มีการตกแต่งใดๆทั้งองค์พระและนอกองค์พระ ศิลปะสุโขทัยได้แก่พระเกศเปลวยาวพริ้ว พระพักตร์รูปไข่ พระวรกายเรียวยาวสมส่วน เน้นองค์พระเป็นสำคัญ เป็นศิลปะบริสุทธิ์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ได้แก่องค์พระประทับบนฐานชุกชีเป็นรูปสามเหลี่ยมทรงสูงเหมือนฉัตร ประดิษฐานภายในซุ้มครอบแก้ว เป็นเส้นหวายผ่าครึ่ง เส้นซุ้มชนิดนี้ไม่มีในสมัยใด
พระพิมพ์นี้สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ระหว่าง พ.ศ. 2409 – 2415 อายุถึงปัจจุบัน พ.ศ. 2559 ประมาณ 134 – 150 ปี

พุทธคุณ แคล้วคลาด, เมตตามหานิยม, อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค  


พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์อื่นๆ