พระลักษณะ องค์พระนารายณ์ปาฏิหาริย์อวตารปราบอสูร
แผลงฤทธิ์องค์ มี 9 เศียร 18 กร พระวรกายล่ำสัน พระเศียรซ้อนกัน 3 ชั้นสวมมงกุฎ
พระพักตร์กลม มีพระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์รางๆ พระกรรณยาว พระศอแคบ
พระอุระกว้าง พระอุทรคอด ทรงภูษาแนบเนื้อ สวมกรอบศอเหนือพระอุระ พระพาหา พระกรและพระหัตถ์แผ่ออกสองข้างเป็นรูปพัด
ประทับยืนงอพระชานุซ้าย เขย่งพระบาทขวา บนซากอสูร 1 ตนที่นอนอยู่ใต้พระบาท
เบื้องบนรอบพระเศียรเป็นประภามณฑลซุ้มเรือนแก้วลายกนกรูปกลีบบัว ขยักเว้าเข้าในที่กึ่งกลางซุ้ม ด้านซ้ายองค์เป็นนางปัญญาบารมีประทับยืน
ด้านขวาเป็นพระโพธิสัตว์ปางนาคปรกประทับนั่งสมาธิขัดสมาธิเพชร
ทั้งหมดอยู่ในกรอบพระพิมพ์รูปกลีบบัว
ด้านหลังพระพิมพ์เรียบเป็นคลื่นจากการกดแต่งพิมพ์มีลายนิ้วมือรางๆ
แม่พิมพ์ตอนกลางลึก ด้านข้างตื้นจึงแต่งบรรจบขอบข้างด้านหน้าได้พอดี
ไม่มีการตัดขอบ
1.วัสดุที่ใช้สร้าง
ดินเหนียวไม่มีกรวดทรายบดกรองละเอียด ผงศิลาแลง, ว่าน108, ข้าวสุกเป็นตัวยึดมวลสาร
ผสมกันโขลกตำเป็นเนื้อเดียว ใส่น้ำนวดให้ข้นเหนียว เหมือนดินน้ำมัน ปั้นเป็นก้อน
กดลงแม่พิมพ์ เคาะออก ผึ่งในร่มให้แห้ง เผาไฟอุณหภูมิ 850 องศาเซลเซียส
ได้พระพิมพ์ดินเผาสีแดงส้ม ผิวเรียบ แข็งแกร่ง เนื้อละเอียดนุ่ม
มีคราบไคลขี้กรุเป็นผงดินละเอียดสีดำแห้ง ติดผิวตามซอกลึกด้านหน้า
ขนาด กว้างฐาน 5 ซม. สูง 6.5 ซม.
2.ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง เป็นพระพิมพ์ดินเผาสมัยลพบุรีตอนต้น
พุทธศตวรรษที่ 16-17 อายุ 1,000 ปี ปฏิมากรรมเป็นศิลปะลพบุรี สร้างตามคติพราหมณ์ฮินดูรวมกับคติหินยาน
ผสมศิลปะทวาราวดีตอนปลายที่อยู่ในพื้นที่เดิม เคยรุ่งเรือง
คือกรุงละโว้เป็นศูนย์กลางเสื่อมอำนาจลง ขอมกัมพูชาขยายอำนาจแผ่เข้ามาครอบครอง
มีความเจริญขึ้นเป็นลำดับ และได้นำศิลปะแบบขอม
มาประยุกต์สร้างพระพิมพ์ผสมศิลปะทวาราวดีที่มีอยู่เดิม ชนชั้นผู้ปกครองเป็นผู้อำนวยการสร้าง
ให้ช่างหลวงรวมกับช่างท้องถิ่นเป็นผู้ทำงาน ได้พระพิมพ์เป็นศิลปะชั้นสูงแบบหนึ่ง
ที่ประณีตสวยงาม วิจิตร อลังการ มีความคม ลึก ชัดเจน ฝีมือช่างเป็นเลิศ บรรจุกรุที่กรุงละโว้เมืองแม่
และแบ่งไปฝากบรรจุกรุที่เมืองบริวารอื่นๆ เป็นการขยายอิทธิพลขอม
จึงพบพระพิมพ์นี้ในเมืองอื่นหลายแห่งในปัจจุบัน
พุทธคุณ
พระพิมพ์สร้างตามคติพราหมณ์ฮินดูผสมหินยานจึงมีกฤติยาคมแฝดเข้มแข็งเป็นสองเท่าด้านแคล้วคลาด,
คงกระพัน, มหาอุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น