พระขุนแผนแตงกวาผ่าซีก เนื้อดิน กรุวัดพระรูป อำเภอเมือง
จังหวัดสุพรรณบุรี
พระขุนแผนวัดพระรูป
เนื้อดินมี 2 พิมพ์คือ พิมพ์ไข่ผ่าซีกและพิมพ์แตงกวาผ่าซีก ส่วนมากมักจะเรียกกันสั้นๆว่า
“พิมพ์ไข่ผ่า” และ “พิมพ์แตงกวา” โดยถือเอาลักษณะของกรอบพิมพ์เป็นสำคัญ
ในการแบ่งแยกมีดังนี้
1 .พิมพ์ไข่ผ่า มีลักษณะป้อมกลมรี คล้ายไข่ไก่ถูกผ่าแบ่งออกเป็น 2 ซีก ปีกทั้งสองข้างกว้างกว่าพิมพ์แตงกวา ส่วนกว้างที่สุด ของพิมพ์ประมาณ 2.75 ซม.บางองค์กว้างถึง 3 ซม. สูงประมาณ 5.5 ซม.
2.พิมพ์แตงกวากรอบพิมพ์มีลักษณะผอมสูงยาวรีคล้ายผลแตงกวาผ่าเป็น 2ซีก ส่วนกว้างที่สุดของพระพิมพ์ประมาณ 2.5 ซม. แคบกว่าพิมพ์ไข่ผ่านิดหน่อย
ส่วนสูง 5 เซนติเมตร
ยังมีอีกพิมพ์หนึ่งกรอบพิมพ์คลุมเครือครึ่งๆกลางๆ
กว้างพอๆกับพิมพ์ไข่ผ่าแต่ความสูงเกือบเท่าพิมพ์แตงกวาทำให้พิจารณายากว่าเป็นพิมพ์ทรงอะไรกันแน่
พุทธลักษณะ
พิมพ์แตงกวาผ่า
1) องค์พระปฏิมาประทับนั่งราบขัดสมาธิเพชร
ปางมารวิชัยบนอาสนะที่ประทับเหนือฐานรูปบัวคว่ำบัวหงายกลีบบัวเล็บช้าง ลักษณะกลีบบัวชนิดนี้เรียกพระพิมพ์ว่า
“พระยอดขุนพล”
2) พุทธศิลปะองค์พระมีพระเศียรโต ต่อมพระเมาลีเป็นมวยเล็กลอนลูกจันทร์
พระเกศรัศมีเป็นเปลวปลายแหลมสะบัดสูงยาวจรดใต้ยอดซุ้ม พระพักตร์ยาว พระนลาฏ(หน้าผาก)กว้าง
ขมับทั้งสองข้างเว้าเข้าเล็กน้อย พระหนุ(คาง)รูปสี่เหลี่ยมใหญ่และกว้าง พระเนตร
พระนาสิกและพระโอษฐ์ลางเลือน พระกรรณเป็นเส้นขีดตรงๆแทบมองไม่เห็น พระอุณหิส(มงกุฎ)
หรือกระบังหน้าไม่ชัดเจน พระศอเป็นลำกว้าง
ช่วงพระหนุ(คาง)ติดลำพระองค์มีช่องว่างเล็กน้อย
3) พระอังสาโค้งกว้าง พระรากขวัญเป็นแอ่งโค่งรับกับพระหนุสูงชะลูดมากกว่าศิลปะอื่น
ครองผ้าจีวรแนบเนื้อ เปิดพระอังสาขวา ชายผ้าจีวรพาดจากพระอังสาซ้ายคงลงใต้พระถันแล้ววกเข้าซอกพระกัจฉะขวา
พระพาหาทั้งสองทอดลงข้างลำพระองค์ หักพระกัประยกพระกรขวาขึ้น พระหัตถ์วางกุมพระชานุลักษณะเขานอก
หักพระกัประพระกรซ้ายยกขึ้นพันเข้าใน หงายพระหัตถ์วางบนพระเพลา
พระเพลาเป็นแอ่งทำให้ดูเป็นขัดสมาธิเพชร ลำขาใหญ่คล้ายศิลปะเชียงแสน
4) องค์พระปฏิมาสร้างเป็นประติมากรรมนูนต่ำ ประดิษฐานอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้วรูปซุ้มนาคสะดุ้งเช่นเดียวกับหน้าบันโบสถ์วิหาร
มีตัวนาคห้อยหัวลงมา หัวนาคผงกออกด้านนอก หางนาคบรรจบกับบนยอดหน้าจั่วหลังคา
บนตัวนาคประดับด้วยใบระกาเรียงลดหลั่นกันขึ้นไปตามลำดับจนถึงยอด ไม่ค่อยชัดเจน
มีเสารองรับหัวนาค ปลายเสาใหญ่หนา ส่วนล่างเรียวเล็กยาวลงมาจรดพระชานุ
5) องค์พระพร้อมฐานที่ประทับและซุ้มเรือนแก้ว ประดิษฐานอยู่ภายในกรอบ
ผอมสูงยาวรี คล้ายผลแตงกวาผ่าเป็น 2 ซีก
ส่วนกว้าง
2.5 ซม. สูง 5 ซม. ด้านหลังอูมนูนคล้ายหลังเบี้ย
ยุคสมัย
ศิลปะและผู้สร้าง
พระขุนแผนไข่ผ่าและพระขุนแผนแตงกวาผ่าเป็นพระเครื่องยุคสมัยอู่ทองตอนปลายหรืออยุธยาตอนต้นประมาณรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยาคำว่า
”อู่ทอง” นั้นต้องเข้าใจเสียก่อนว่าหมายถึง “ไทยสยาม” นั่นเอง
เป็นชนชาวไทยเก่าแก่ที่อพยพลงมาก่อนสายอื่นๆ
และคลุกคลีกับชนเผ่าเจ้าของถิ่นเดิมมานับชั่วศตวรรษๆ เลยทีเดียว
พุทธศิลปะอู่ทองคือพุทธศิลปะที่ชนชาวไทยสยามสร้างขึ้นตามอิทธิพลของชนชาติเจ้าของถิ่นเดิมที่เป็นนายคือมอญ
ศรีวิชัยและขอมโบราณจึงมีอายุยาวมากตั้งแต่สมัยทวารวดีผ่านศรีวิชัย
ลพบุรีไปจดเอาอยุธยายุคต้นและก่อนจะถึงอยุธยาก็คละเคล้ากับสกุลช่างสุโขทัยและเชียงแสนอีกด้วยจะพบว่าอู่ทองปนอยู่ในทุกสกุลช่างที่มีในถิ่นสยาม
แต่อู่ทองก็กลั่นตัวเองจนเป็นสกุลช่างแท้ของตนเองมาได้ในยุคหลังลพบุรี
ซึ่งจัดว่าเป็นอู่ทองคลาสสิค เช่นเดียวกับสุโขทัยคลาสสิคและเชียงแสนคลาสสิค
พระขุนแผนแตงกวาผ่ามีพุทธศิลปะเป็นศิลปะอู่ทองผสมศิลปะลพบุรีสร้างขึ้นใน
พุทธศตวรรษที่ 18 มีอายุประมาณ 800 ปีรังสรรค์โดยช่างปฏิมากรพื้นเมืองเป็นพระเครื่องสกุลขุนแผนมีอายุสูงกว่าพระขุนแผนของสุพรรณทั้งหมดพบครั้งแรกที่กรุวัดพระรูปเมื่อปี
พ.ศ. 2550 (เป็นพระเนื้อจัดมีกรวดทรายน้อย)
ต่อมาพบที่กรุวัดอื่นๆอีกหลายวัด(ส่วนมากเนื้อหยาบมีกรวดทรายมาก)
มวลสารใช้สร้าง
พระขุนแผนแตงกวาผ่าเนื้อดินเผากรุวัดพระรูปสร้างด้วยดินเหนียวพื้นถิ่น
กรรมวิธีให้ได้เนื้อดินละเอียดเหมือนกับการเตรียมดินสำหรับทำเครื่องปั้นดินเผาในปัจจุบันโดยแช่ดินในน้ำให้ตกตะกอน
จนได้ดินละเอียดนำไปตากแห้ง บดละเอียดกรองเม็ดกรวดทรายออก ผสมด้วยผงวิเศษที่มีอิทธิฤทธิ์
ตามความเชื่อแต่โบราณ สร้างเป็นพระพิมพ์สำเร็จแล้วได้พระพิมพ์ดินเผาสีแดงอมน้ำตาล
เนื้อจัดค่อนข้างนุ่มมีกรวดทรายน้อย ขี้กรุเป็นดินละเอียดสีเหลืองอ่อนและราดินสีดำ
ติดตามผิวด้านหลังเล็กน้อย ราดินจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติกับพระเครื่องดินเผาที่อยู่ในกรุมีอายุหลายร้อยปีฝีมือมนุษย์ไม่สามารถปลอมแปลงได้
พุทธคุณ
ยอดเยี่ยมด้านคงกระพันและมหาอุตม์
เป็นที่เชื่อถือได้อีกพิมพ์หนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น