พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง พิมพ์หน้าเทวดา (สิบเอก) สุพรรณบุรี
พุทธลักษณะ ประทับนั่งราบ ปางมารวิชัย ภายในประภามณฑลซุ้มเรือนแก้วเป็นเส้นลวดเส้นเดี่ยวเป็นรัศมีตามรูปองค์พระ
ขอบซุ้มส่วนบนประดับด้วยใบระการูปดอกบัวตูม
องค์พระมีพระวรกายผอมเรียว พระเศียรกลม พระเกศาเรียบ
พระเมาลีเป็นมวยสองชั้น พระเกศรูปดอกเข็มตูม ไรพระศกเป็นกรอบพระพักตร์ ปรากฏพระขนง
พระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์ พระกรรณรูปบายศรียาวจรด พระอังสา พระอุระกว้าง
พระอุทรคอด ครองจีวรห่มคลุมเปิดไหล่ขวา สังฆาฏิพาดยาวถึงพระนาภี
พระพาหา-พระกรขวาทอดลง พระหัตถ์ประคองกุมพระชานุลักษณะเข่าใน
พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา ประทับนั่งราบ พระชงฆ์ขวาวางบนพระชงฆ์ซ้ายลักษณะลอยองค์ไม่มีอาสนะ
กรอบรูปสามเหลี่ยมกลีบบัว
1.วัสดุใช้สร้าง
พระพิมพ์เนื้อละเอียดดินป่นละเอียดเต็มไปด้วยแร่ดอกมะขามเป็นหลัก
การกรองดินเป็นชั้นหนึ่งผสมกับว่าน ใส่กาวและน้ำนวดเข้ากันให้อ่อน
เหนียวข้นเหมือนดินน้ำมัน ปั้นกดลงแม่พิมพ์แคะออกปาดขอบข้าง ตากให้แห้ง
เผาไฟอุณหภูมิ 900 องศาเซลเซียส ได้พระพิมพ์ดินเผาสีแดง เนื้อละเอียด แข็งแกร่ง
ผิวเป็นคลื่นเห็นจะทั่วไป แร่ดอกมะขามเป็นจุดเท่าปลายเข็มกระจายทั่วองค์พระ
มีกรวดแร่ลอยบนผิวบางตาไม่มากเหมือนพระเนื้อหยาบ ผิวหนึกนุ่ม คราบไคลขี้กรุเป็นผงดินละเอียดสีเหลืองอ่อนนวลติดตามซอกลึกและเคลือบติดด้านหลังบางๆ
ด้านหลังแบนเป็นคลื่นมีรอยเสี้ยนไม้เป็นเส้นยาว กรวดเม็ดเล็กจมผิวเป็นผด
ขนาด กว้างฐาน 3 ซม. สูง 5 ซม. หนาขอบ 6 มม.
2.ยุคสมัยศิลปะและผู้สร้าง
เป็นพระพิมพ์สมัยอยุธยาพุทธศตวรรษที่ 22 อายุราว 400 ปี
สร้างในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
อุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารหาญที่เสียชีวิตในการศึกสงครามกับทัพพม่า
สมัยทำยุทธหัตถีบนหลังช้างกับพระมหาอุปราชาที่ยกทัพเข้ามารุกราน บรรจุกรุ ณ
วัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น