พุทธลักษณะและพิมพ์
1.องค์พระประทับยืนในท่าเยื้องย่างหรือลีลาไปทางด้านซ้าย
บนฐานบัวหน้ากระดานชั้นเดียว มีกลีบเรียงรายตลอดฐาน ที่จดขอบซุ้มเส้นโค้งยอดมนแหลม
2.พระพักตร์หันตั้งตรง
พระรัศมีเกศมาลาสั้นแหลมรูปกรวย มีปล้องดุจกำไลรัดระหว่างขอบพระรัศมีมาลากับพระเมาลี
3.บนพระเศียรเป็นเม็ดพระเกศากลมอย่างพระบูชา
รายละเอียดในวงพระพักตร์ไม่ปรากฏเด่นชัดเท่าที่ควร คงเห็นแต่พระเนตร พระนาสิก
และพระโอษฐ์รางๆ
4.พระกรรณทั้งสอง
เห็นเส้นคมขดคล้ายหูคน ปลายพระกรรณที่ยาวแนบข้างพระปรางลงมาจรดพระศอ
5.พระอังสาและพระอุระกว้างใหญ่นูนหนาสวยงามได้ส่วน
เรียวคอดเข้าหาพระนาภี ทำเป็นลอนต่ำกว่าลอยพระถันขวา ที่เนินพระถันซ้าย
มีพระหัตถ์ซ้ายวางและกรีดพระดรรชนีเป็นวงกับพระอังคุฐ(แบบศิลปะอินเดีย)ปิดอยู่
เหนือพระหัตถ์มีเส้นพระสังฆาฏิ ที่ทำเป็นเส้นคู่พาดไว้
เช่นเดียวกับเส้นขอบพระจีวรที่พาดรัดพระถันขวาไว้ เสมือนวกเข้าไปถึงพระปฤษฎางค์
6.ใต้พระหัตถ์และข้อพระกรซ้ายทำเป็นเส้นพระสังฆาฏิและพระจีวรที่ปล่อยชายเป็นริ้ว
อ่อนช้อยลงสู่เบื้องล่าง ช่วงพระนาภีทำเป็นเส้นคู่คดโค้งขนานแสดงขอบพระสบง พระโสณีนูนผายและเรียวถึงพระชานุ
ที่ทำเป็นปมให้เห็นด้วย
7.พระชงฆ์ขวาทอดยาวออกไปทางด้านหลังทำมุมพองามกับพระบาทที่นูนหนาจนเห็นหลังพระบาท
พระอังคุฐและพระดรรชนีบางส่วนด้วย
8.พระเพลาซ้ายเรียวกลมถึงพระบาทที่ยกปลายพระดรรชนีงอนขึ้นสู่เบื้องบน
พระกรขวากลมเรียวทอดลงข้ามลำพระองค์ ปลายพระดรรชนีเรียวจากหลังพระหัตถ์และแสดงพระดรรชนีอื่นไว้ด้วย
พระอังคุฐกางออกยาวขนานไปกับพระเพลา
9.ชายพระสบงและพระจีวรด้านล่าง
ทำเป็นเส้นคมเสมือนแบนบางกลมแนบพระองค์ จนเห็นพระสรีระทุกช่วงตอน
10.พระพิมพ์
เป็นประติมากรรมนูนต่ำ ประดิษฐานภายในกรอบซุ้มเส้นโค้งยอดแหลม
มีกรอบนอกอีกชั้นหนึ่ง ดูเสมือนเนื้อล้นพิมพ์ ด้านหลังอมนูน มีรอยลายมือกดพิมพ์
ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน
เป็นพระเครื่องกรุทุ่งเศรษฐี ศิลปะสุโขทัยยุคต้น พุทธศตวรรษที่19
อายุถึงปัจจุบันราว 650 ปี พบครั้งแรกจากรุวัดพระบรมธาตุเมื่อพ.ศ. 2392
โดยพระมหาธรรมราชาลิไท พระมหากษัตริย์กรุงสุโขทัย รัชกาลที่ 5
เป็นผู้ให้กำเนิดไว้เมื่อพ.ศ.1900 ต่อมาพ.ศ.2470
ก็มีผู้พบพระเม็ดขนุนที่กรุวัดพิกุล และกรุพระเจดีย์กลางทุ่งฯอีก จนถึงพ.ศ.2505
ก็พบอีกที่กรุวัดอาวาสน้อยกับกรุวัดป่ามืดด้วยจำนวนเพียง 50 องค์เท่านั้น
พระสกุลนี้เป็นพระเครื่องทุ่งเศรษฐีชั้นนำ ยอดหายาก
และมีค่านิยมมากสูงเช่นเดียวกับพระกำแพงซุ้มกอ
พระกำแพงเม็ดขนุนนี้มีสร้างไว้ทั้งชนิดเนื้อดินผสมผง มีสี่สี คือ แดง เหลือง
เขียวและดำ มีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
รวมทั้งเนื้อว่านประประกบหน้าทอง นาค และเงิน ตลอดจนเนื้อชินด้วย
มวลสารในการสร้าง เนื้อดินดิบกรองละเอียด ไม่มีแร่กรวด
ส่วนผสมมีผงว่านและแร่ดอกมะขามเป็นหลัก สร้างเป็นพระพิมพ์
เนื้อดินสีแดง เผาด้วยอุณหภูมิ 650 – 750 องศาเซลเซียส
ได้พระดินเผา เนื้อแน่นแข็งแกร่ง มีจุดสีแดงเข้มของแร่ดอกมะขามกระจายอยู่ในเนื้อ
จัดว่าพระพิมพ์นี้เนื้อละเอียดยิ่ง หรือจดมาก
น้ำซึมเข้าเนื้อได้ยากเทียบเท่ากับเนื้อพระรอดลำพูน
ขี้กรุเป็นผงดินละเอียดสีเทานวลติดแน่นบนผิว
พิมพ์ใหญ่ ขนาดกว้าง
1.6 ซม. สูง 4 ซม. หนา 7 มม.
พระพุทธคุณ ให้โชคลาภ คงกระพันชาตรีและแคล้วคลาด จากภัยพิบัติทั้งปวง
เป็นพระเครื่องส่งเสริมความก้าวหน้า ชนะอุปสรรคทั้งปวง
เป็นลักษณะหนึ่งของความสำเร็จ ในการสร้างฐานะ เปรียบประดุจท่วงท่าก้าวย่าง
ดำเนินไปข้างหน้าขององค์พระปฏิมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น