พระกลีบบัว หรือ พระนางกำแพงกลีบบัว เศียรแฉก
เนื้อดินเผา กรุลานทุ่งเศรษฐี(นครชุม) จังหวัดกำแพงเพชร
พระพิมพ์ที่ขึ้นชื่อลือชาอีกพิมพ์หนึ่งของเมืองกำแพงเพชรคือ
พระนางพญากำแพง หรือที่เรียกสั้นๆง่ายๆว่า “พระนางกำแพง”
ด้วยเป็นพระที่ขึ้นจากกรุจำนวนมาก ทั้งในและนอกทุ่งเศรษฐี กระจานมาจนถึงเขตติดต่อ
เช่นตากและสวรรคโลกเป็นเอกลักษณ์แห่งคำว่า นางพญาแห่งกรุงสุโขทัย
ก่อนที่จะเกิดพระนางพญาสกุลช่างอยุธยา เมืองพิษณุโลกในห้วงเวลาต่อมา
พระนางกำแพงมีทั้งรูปแบบทั่วไปและรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เช่น
เม็ดมะลื่น เม็ดมะเคล็ด หรือกลีบบัว สำหรับพระนางกำแพงกลีบบัวนี้
จากอดีตจนถึงปัจจุบันได้รับความนิยมต่อเนื่องมาโดยตลอด
แต่พระนางกำแพงกลีบบัวที่ออกมาจากกรุจำนวนมากมายมหาศาล เมื่อมีการลักลอบขุดกรุเมืองกำแพงเพชรยังเลื่องลือ
ทำเป็นจำนวนมหาศาลให้แก่นักขุดจนกลายเป็นเศรษฐีย่อยๆไปตามกัน
และมีพระพิมพ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นชัดสะท้อนศิลปะสุโขทัย
พระนางกลีบบัวนั้น
รูปทรงกรอบส่วนมากจะตัดเหมือนกลีบดอกบัวบานปลายแหลมและส่วนท้ายที่ติดกับดอกจะมนงดงามจนยากจะบรรยาย
และมีจำนวนน้อยกว่าพิมพ์แบบอื่น
ในพิมพ์ทรงอันงดงามนี้ยังมีพระนางกำแพงกลีบบัวที่หายากและเป็นที่เสาะหาของนักเลงพระทั่วไป
คือ พระนางกำแพงกลีบบัวเกศแฉกนั่นเอง
พุทธลักษณะ
1.องค์พระประทับนั่งราบปางมารวิชัย
พระเศียรโตป้าน พระศกโล้นเรียบ พระเมาลีต้นเห็นลางๆ
พระเกศเป็นพุ่มใหญ่สูงยาวแยกเป็นแฉก นั่นคือเกศของพระพุทธรูปสุโขทัย
ลักษณะเป็นเปลวเพลิงอันงดงาม วงพระพักตร์รูปไข่เกลี้ยงเรียบไม่ปรากฏรายละเอียดรวมทั้งพระกรรณด้วย
พระศอเป็นร่องตื้น
2.พระอังสากว้างสมส่วน พระอุระนูนอวบเล็กน้อย
ครองจีวรแนบเนื้อห่มดองเปิดไหล่ขวา เส้นจีวรเป็นร่องพาดโค้งลงใต้พระถันขวา
พระกฤษฎีเรียวคอดไม่มีลอนท้อง พระพาหาทอดลงข้างลำพระองค์ พระกรขวายกขึ้น
เฉียงลงแนบพระอุทร พระหัตถ์วางหงายบนพระเพลา
3.ประทับนั่งราบ พระเพลาใหญ่กว้าน
พระชงฆ์และพระบาทขวา วางซ้อนบนพระชงฆ์ซ้าย ประทับนั่งบนบัลลังก์ฐานเขียงเป็นเส้นหวายผ่าซีกยาวตลอดใต้พระเพลา
4.องค์พระเป็นประติมากรรมนูนต่ำ
ประดิษฐานอยู่ภายในกรอบรูปกลีบดอกบัวบาน
ด้านพระปฤษฎางค์ขององค์พระเป็นผนังแบนพื้นเรียบ ไม่มีเครื่องประดับตกแต่ง
ด้านหลังพระพิมพ์นูนโค้งเล็กน้อยแบบหลังเต่าผิวเรียบมีรอยกดพิมพ์เป้นคลื่น
ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง
เมื่อสิ้นยุคของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
สมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไท พระราชโอรสองค์โตขึ้นครองราชย์ ในขณะที่สุโขทัยเป็นศูนย์แห่งพระพุทธศาสนาในแผ่นดินตอนเหนือของประเทศไทย
ศิลปะสุโขทัยหลั่งไหลเข้าสู่กำแพงเพชร เกิดเป็นสกุลช่างประยุกต์
เป็นศิลปะแห่งพระบูชาและพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เรียกกันติดปากว่า
“ศิลปะสุโขทัย ในพระกำแพง” อันเป็นสุดยอดแห่งความงามที่มีความแตกต่างไปจากพุทธศิลป์ของสุโขทัยบริสุทธิ์
พระกรุในเมืองกำแพงเพชรมีมากมายหลากหลายกรุ
แต่ละกรุได้สะท้อนภาพของงานศิลปะออกมามากมายตามจินตนาการของช่างศิลปินรังสรรค์ขึ้น
พระนางกำแพงกลีบบัวเกศแฉกนี้ก็เป็นพระเครื่องพิมพ์หนึ่งในจำนวนนี้ด้วย
มีอายุถึงปัจจุบันราว 600 กว่าปี
มวลสารใช้สร้าง
เนื้อดินเผา
วัสดุสาวนใหญ่เป็นดินละเอียดมีแร่ดอกมะขามปนอยู่โดยธรรมชาติ
บดกรองเป็นเม็ดกรวดแร่ก้อนโตออกหมด ผสมว่านพืชมีคุณวิเศษตามตำราโบราณ
สร้างเป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัว เข้าบรรจุในภาชนะเข้าเตาอบเผาไฟ
จนได้พระดินเผาสีแดงเนื้อละเอียดหนึกนุ่ม มีแร่ดอกมะขามถูกความร้อนละลายเป็นจุดสีแดงเล็กๆในเนื้อดินประแต้มลอยขึ้นบนผิวขี้กรุ
เป็นผงดินละเอียดสีเหลืองเทานวล เคลือบติดตามซอกลึกรวมทั้งราดำจุดเล็กๆ
งอกขึ้นตามผิวกระจายเป็นหย่อมๆทั่วทั้งองค์
แสดงถึงความมีอายุยาวนานของพระพิมพ์เป็นไปตามธรรมชาติ
ฝีมือมนุษย์ไม่สามารถปลอมแปลงได้
ขนาด ฐานกว้าง 1.8 ซม. สูง
2.0 ซม. หนา 0.6 ซม.
พุทธคุณ
พระเครื่องกำแพงเพชร โดยเฉพาะเนื้อดินเผานั้น
เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วว่า มีอานุภาพยอดเยี่ยมทางด้านเมตตามหานิยม และโชคลาภ