วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560

พระกลีบบัว หรือพระนางกำแพงกลีบบัว เศียรแฉก เนื้อดินเผา กรุลานทุ่งเศรษฐี(นครชุม) จังหวัดกำแพงเพชร

 

พระกลีบบัว หรือ พระนางกำแพงกลีบบัว เศียรแฉก เนื้อดินเผา กรุลานทุ่งเศรษฐี(นครชุม) จังหวัดกำแพงเพชร

พระพิมพ์ที่ขึ้นชื่อลือชาอีกพิมพ์หนึ่งของเมืองกำแพงเพชรคือ พระนางพญากำแพง หรือที่เรียกสั้นๆง่ายๆว่า “พระนางกำแพง” ด้วยเป็นพระที่ขึ้นจากกรุจำนวนมาก ทั้งในและนอกทุ่งเศรษฐี กระจานมาจนถึงเขตติดต่อ เช่นตากและสวรรคโลกเป็นเอกลักษณ์แห่งคำว่า นางพญาแห่งกรุงสุโขทัย ก่อนที่จะเกิดพระนางพญาสกุลช่างอยุธยา เมืองพิษณุโลกในห้วงเวลาต่อมา
พระนางกำแพงมีทั้งรูปแบบทั่วไปและรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เช่น เม็ดมะลื่น เม็ดมะเคล็ด หรือกลีบบัว สำหรับพระนางกำแพงกลีบบัวนี้ จากอดีตจนถึงปัจจุบันได้รับความนิยมต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่พระนางกำแพงกลีบบัวที่ออกมาจากกรุจำนวนมากมายมหาศาล เมื่อมีการลักลอบขุดกรุเมืองกำแพงเพชรยังเลื่องลือ ทำเป็นจำนวนมหาศาลให้แก่นักขุดจนกลายเป็นเศรษฐีย่อยๆไปตามกัน และมีพระพิมพ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นชัดสะท้อนศิลปะสุโขทัย
พระนางกลีบบัวนั้น รูปทรงกรอบส่วนมากจะตัดเหมือนกลีบดอกบัวบานปลายแหลมและส่วนท้ายที่ติดกับดอกจะมนงดงามจนยากจะบรรยาย และมีจำนวนน้อยกว่าพิมพ์แบบอื่น  ในพิมพ์ทรงอันงดงามนี้ยังมีพระนางกำแพงกลีบบัวที่หายากและเป็นที่เสาะหาของนักเลงพระทั่วไป คือ พระนางกำแพงกลีบบัวเกศแฉกนั่นเอง

พุทธลักษณะ
1.องค์พระประทับนั่งราบปางมารวิชัย พระเศียรโตป้าน พระศกโล้นเรียบ พระเมาลีต้นเห็นลางๆ พระเกศเป็นพุ่มใหญ่สูงยาวแยกเป็นแฉก นั่นคือเกศของพระพุทธรูปสุโขทัย ลักษณะเป็นเปลวเพลิงอันงดงาม  วงพระพักตร์รูปไข่เกลี้ยงเรียบไม่ปรากฏรายละเอียดรวมทั้งพระกรรณด้วย พระศอเป็นร่องตื้น
2.พระอังสากว้างสมส่วน พระอุระนูนอวบเล็กน้อย ครองจีวรแนบเนื้อห่มดองเปิดไหล่ขวา เส้นจีวรเป็นร่องพาดโค้งลงใต้พระถันขวา พระกฤษฎีเรียวคอดไม่มีลอนท้อง พระพาหาทอดลงข้างลำพระองค์ พระกรขวายกขึ้น เฉียงลงแนบพระอุทร พระหัตถ์วางหงายบนพระเพลา
3.ประทับนั่งราบ พระเพลาใหญ่กว้าน พระชงฆ์และพระบาทขวา วางซ้อนบนพระชงฆ์ซ้าย ประทับนั่งบนบัลลังก์ฐานเขียงเป็นเส้นหวายผ่าซีกยาวตลอดใต้พระเพลา
4.องค์พระเป็นประติมากรรมนูนต่ำ ประดิษฐานอยู่ภายในกรอบรูปกลีบดอกบัวบาน ด้านพระปฤษฎางค์ขององค์พระเป็นผนังแบนพื้นเรียบ ไม่มีเครื่องประดับตกแต่ง ด้านหลังพระพิมพ์นูนโค้งเล็กน้อยแบบหลังเต่าผิวเรียบมีรอยกดพิมพ์เป้นคลื่น

ยุคสมัย ศิลปะและผู้สร้าง
เมื่อสิ้นยุคของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไท พระราชโอรสองค์โตขึ้นครองราชย์ ในขณะที่สุโขทัยเป็นศูนย์แห่งพระพุทธศาสนาในแผ่นดินตอนเหนือของประเทศไทย ศิลปะสุโขทัยหลั่งไหลเข้าสู่กำแพงเพชร เกิดเป็นสกุลช่างประยุกต์  เป็นศิลปะแห่งพระบูชาและพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เรียกกันติดปากว่า “ศิลปะสุโขทัย ในพระกำแพง” อันเป็นสุดยอดแห่งความงามที่มีความแตกต่างไปจากพุทธศิลป์ของสุโขทัยบริสุทธิ์ พระกรุในเมืองกำแพงเพชรมีมากมายหลากหลายกรุ แต่ละกรุได้สะท้อนภาพของงานศิลปะออกมามากมายตามจินตนาการของช่างศิลปินรังสรรค์ขึ้น พระนางกำแพงกลีบบัวเกศแฉกนี้ก็เป็นพระเครื่องพิมพ์หนึ่งในจำนวนนี้ด้วย มีอายุถึงปัจจุบันราว 600 กว่าปี

มวลสารใช้สร้าง
เนื้อดินเผา วัสดุสาวนใหญ่เป็นดินละเอียดมีแร่ดอกมะขามปนอยู่โดยธรรมชาติ บดกรองเป็นเม็ดกรวดแร่ก้อนโตออกหมด ผสมว่านพืชมีคุณวิเศษตามตำราโบราณ สร้างเป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัว เข้าบรรจุในภาชนะเข้าเตาอบเผาไฟ จนได้พระดินเผาสีแดงเนื้อละเอียดหนึกนุ่ม มีแร่ดอกมะขามถูกความร้อนละลายเป็นจุดสีแดงเล็กๆในเนื้อดินประแต้มลอยขึ้นบนผิวขี้กรุ เป็นผงดินละเอียดสีเหลืองเทานวล เคลือบติดตามซอกลึกรวมทั้งราดำจุดเล็กๆ งอกขึ้นตามผิวกระจายเป็นหย่อมๆทั่วทั้งองค์ แสดงถึงความมีอายุยาวนานของพระพิมพ์เป็นไปตามธรรมชาติ ฝีมือมนุษย์ไม่สามารถปลอมแปลงได้
ขนาด ฐานกว้าง 1.8 ซม. สูง 2.0 ซม. หนา 0.6 ซม.

พุทธคุณ

พระเครื่องกำแพงเพชร โดยเฉพาะเนื้อดินเผานั้น เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วว่า มีอานุภาพยอดเยี่ยมทางด้านเมตตามหานิยม และโชคลาภ


พระกลีบบัว องค์อื่นๆ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น