วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เหรียญเจ้าสัว หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี นครปฐม

 

พระพิมพ์อื่นๆของ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว



เม็ดยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี นครปฐม


พระพิมพ์อื่นๆของ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว


พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พิมพ์กลีบบัวเนื้อผงยาจินดามณี หลังจารยันต์เฑาะว์มหาพรหม วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรี พิมพ์จิ๋ว

 

พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรี พิมพ์จิ๋ว ปัจจุบันนี้เท่าที่ปรากฏมีน้อยมาก 

พระพิมพ์จิ๋ว มีขนาด กว้าง 0.7 ซม.สูง1.1ซม.

พระพุทธคุณ ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกันกับพิมพ์ใหญ่ทุกประการ

พระพิมพ์อื่นๆของ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์


พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรี วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555


วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระถ้ำเสือ จังหวัดสุพรรณบุรี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พระถ้ำเสือ จังหวัดสุพรรณบุรี
พุทธลักษณะพระถ้ำเสือ พุทธลักษณะเป็นศิลปะทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 11-17
พระเกศเป็นปม, เม็ดพระศกกลุ่มใหญ่, พระนลาฏแคบ
พระโขนง (คิ้วลากติดกันเป็นปีกกา, พระเนตรเนื้อ)
หลังพระเนตรนูน พระนาสิกป้าน ริมพระโอษฐ์หนา
จีวรมีทั้งคลุมและเปิดไหล่ สังฆาฏิพาดผ่านหน้าอกยาวถึงสะดือ
ลำพระองค์ผอมบาง, ผนังด้านหลังแบนราบ
พระถ้ำเสือเป็นพระดินเผา มีหลายขนาด ปางมารวิชัย ลอยองค์ ไม่มีอาสนะรองรับ พระบาทขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ขวา วางพาดที่พระเพลา เห็นนิ้วพระหัตถ์ยาว 4 นิ้ว ชัดเจน ไม่เห็นหัวแม่มือ พระหัตถ์ซ้าย วางหงายที่หน้าตัก
ด้านหลัง อูมนูนโค้งมนเรียบแบบเปลือกไข่ ปรากฏลายมือกดแต่งลางๆ ไม่มีการตัดขอบข้าง จึงมีปีกรอบองค์พระตามธรรมชาติ

1. วัสดุและทัพสัมภาระการสร้างพระ พระถ้ำเสือเป็นพระดินเผา เนื้อหยาบ เนื้อละเอียดมีน้อย ประกอบด้วย เนื้อดินละเอียด มีเม็ดแร่-กรวดมาก ผสมผง เนื้อดินฟ่ามกว่าพระดินดิบ มีลักษณะกร่อน ผุเป็นรูพรุน ภายในมีความแกร่งพอควร ผิวพระเหี่ยวย่น มีฝ้าขาวแทรกอยู่ในร่องผิว ประปรายทั้งด้านหน้า-หลัง มีดินฝุ่น เป็นผงละเอียดปกคลุมอยู่ ผิวภายนอกจึงมีสีเข้ม ขณะที่สีเนื้อในเป็นสีแดงอิฐ
ขนาดองค์พระ มีหลายขนาด ใหญ่กลางเล็ก

2. ยุคสมัยการสร้าง สันนิษฐานว่า เป็นศิลปะทวารวดียุคปลายระหว่างพุทธศตวรรษ ที่ 15-17 อายุถึงปัจจุบันราว 900 ถึง 1,100 ปีมีอายุมากกว่า พระคง พระเปิม ของลำพูน

3. การค้นพบกรุพระ พระถ้ำเสือเป็นพระเครื่องสมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 11-17 มีอายุมากกว่าพระเครื่องทุกกรุ มีเอกลักษณ์ ของตนเองโดยเฉพาะมี 2 ปาง ส่วนมากเป็นปางมารวิชัย พบในถ้ำ ของภูเขาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อพ.ศ. 2487 เด็กหนุ่มชาวบ้าน เนินพลับพลา อำเภออู่ทองจังหวัดสุพรรณบุรี มีอาชีพ หาของป่าไปหามูลค้างคาว ในถ้ำของ “เขาคอก” บังเอิญพบเสือในถ้ำทั้งคนทั้งเสือ วิ่งกันไปคนละทาง เมื่อเสือไปแล้ว ต่อมาเด็กหนุ่มก็เข้าไปหามูลค้างคาวในถ้ำอีก พบพระดินเผา ปนอยู่กับมูลค้างคาวองค์เล็กๆ 6-7 องค์ ก็เก็บมาบ้าน ไว้บนหิ้งพระ และไม่ได้สนใจ ในที่สุด พระเครื่องก็อันตรธาน หายไป
พ.ศ. 2493 เด็กหนุ่มคนเดิมไปหามูลค้างคาวในถ้ำนี้อีก พบพระดินเผาเหมือนครั้งแรก ร้อยกว่าองค์ ก็เก็บเอาไว้ในบ้าน ต่อมามีถนนตัดผ่านจังหวัดนครปฐม มาอำเภออู่ทอง เลยเข้าจังหวัดสุพรรณบุรีในปี 2500 จนแล้วเสร็จปี 2509 เด็กหนุ่มก็เอาพระออกไปขายที่ตลาดอู่ทอง ในปี 2505 คนชื้อถามว่า ไปเอามาจากไหน ก็ตอบว่า ได้มาจากถ้ำที่มีเสืออยู่ ต่อมาจึงเรียกกันว่า “พระถ้ำเสือ” พระพิมพ์ ทรงดังกล่าว นี้มีการพบอีกหลายกรุ หลายถ้ำ ติดต่อกันมานับ 10 ถ้ำ เป็นเวลากว่า 20 ปี และเรียกกันว่า “พระถ้ำเสือ” เหมือนกันหมด ไม่แยกเป็นกรุเก่า กรุใหม่ เพราะมีอายุเท่ากัน
พระถ้ำเสือแตกกรุ เท่าที่รู้มีดังนี้ (ที่ไม่รู้ยังมีอีกมาก)
1. เขาดีสลัก พบประปราย หน้าถ้ำละมุด ปี 2500
2. วัดหลวง พบที่พื้นดินราบ สิงหาคม-กันยายน 2512
3.วัดหลวง พบครั้งที่ 2, กันยายน 2512
4 วัดเขาดีสลัก พบประปราย จากเจดีย์ยอดเขาพังทลาย สิงหาคม 2516
5 เขาดีสลัก พบประปรายพิมพ์จิ๋ว 2517
6 เขาวง พบ มิถุนายน-กรกฎาคม 2518
7 เขาดีสลัก พบจำนวนมากในถ้ำละมุด สิงหาคม 2535
8 วัดเขาทับทิม 2543
   ฯลฯ
พระถ้ำเสือ เป็นพระที่มีพิมพ์ทรงมากที่สุดของพระเครื่อง แต่ละองค์มีพระพักตร์ต่างๆกัน เคร่งเครียด ดุดัน ปวดร้าว ผิดหวัง สงสัย อิ่มเอิบ ยิ้มแย้มแจ่มใส ฯลฯ

4 ผู้สร้าง พระฤาษีผู้บำเพ็ญภาวนาสมาธิ ได้ฌานสมาธิอภิญญาทรงฤทธิ์ เป็นผู้สร้างบรรจุไว้ในถ้ำต่างๆ ในละแวกอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนาเป็นประเพณีสืบต่อกันมา

พุทธคุณ แคล้วคลาด คงกระพัน

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระขุนแผน พลายคู่ (ตัดเดี่ยว) กรุวัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี

 
พระขุนแผน พลายคู่ พิมพ์เศียรโต (ตัดเดี่ยว)


 
พระขุนแผน พลายคู่ พิมพ์หน้ามงคล (ตัดเดี่ยว)


 
พระขุนแผน พลายคู่ พิมพ์หน้ายักษ์ (ตัดเดี่ยว)

พระขุนแผนพลายคู่ กรุวัดบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

พุทธลักษณะ ปางมารวิชัย องค์พระประทับนั่งซุ้มเรือนแก้วประดับด้วยกลีบบัวเอกลักษณ์เด่น แยกเป็นแต่ละพิมพ์

1 วัสดุและทัพสัมภาระการสร้างพระ
พระขุนแผนวัดบ้านกร่าง เป็นเนื้อดินเผาทั้งหมดมีทั้งชนิดละเอียดและชนิดหยาบ สร้างด้วยดินป่นละเอียดเต็มไปด้วยฝุ่นผงและ แร่ดอกมะขามเป็นหลัก เมื่อเผาแล้วจะได้เนื้อดินสีแดง การกรองดินมีทั้งละเอียดและหยาบ จึงมีกรวดแร่อยู่มากทั้งยังมีส่วนผสมของว่านและแกลบ เมื่อเผาแล้วกรวดแร่จะลอยอยู่บนผิวหนาตามาก อายุถึงขณะนี้ประมาณ 400 ปี ผิวภายนอกจึงนุ่มเนียนและผุกร่อนรวมทั้งมีดินกรุสีเทาดำเคลือบบนผิวบางๆเป็นหย่อมๆ

2 ยุคสมัยการสร้าง พระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา และเป็นศิลปะอยุธยาทั้งหมด มีศิลปะแบบเดียวกับพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดอยุธยา ที่สร้างขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรฯประมาณพ.ศ. 2137 แต่ขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง สร้างภายหลังเล็กน้อยอายุถึงขณะนี้ประมาณ 400 ปี
การแตกกรุพระขุนแผนดินเผา ถือกำเนิดที่วัดบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรีเจดีย์ภายในวัดล้มลงเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2445 มีผู้พบพระอยู่กลาดเกลื่อน เต็มไปด้วยพระขุนแผนพิมพ์ต่างๆจำนวนมากเป็น หมื่นๆองค์

3 ผู้สร้างพระขุนแผนดินเผาพิมพ์ห้าเหลี่ยม กรุวัดบ้านกร่าง มีศิลปะคล้ายคลึงแบบเดียวกับพระขุนแผนเคลือบ พิมพ์ใหญ่ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดอยุธยา ทั้งขนาดและรูปร่างแทบจะถอดแบบมาจากพิมพ์เดียวกัน เมื่อช่างศิลปะต้องการจะสร้างพระบรรจุกรุวัดบ้านกร่าง และมีแม่พิมพ์ขุนแผนห้าเหลี่ยม แต่ต้องการพระจำนวนมาก มีอยู่พิมพ์เดียวคงไม่พอการใช้งานจึงแกะแม่พิมพ์เพิ่มเติมอีกหลายรูปแบบทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่นับได้มากกว่า 30 พิมพ์ขึ้นไป เมื่อสร้างพระดินเผาเสร็จตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ก็นำไปบรรจุไว้ในกรุเจดีย์วัดบ้านกร่าง เพื่อสืบสานต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อกันไป

สันนิษฐานว่า ช่างศิลปะผู้สร้าง คงเป็นช่างหลวงชุดเดียวกับที่สร้างพระขุนแผนเคลือบวัดใหญ่จังหวัดอยุธยานั่นเอง

พุทธคุณ ขลังมากด้าน"เสน่ห์" ซึ่งอันที่จริงแล้วกลับยิ่งยง ด้านแคล้วคลาด คงกระพันมากกว่า

พระขุนแผน (ทุกกรุ) พิมพ์อื่นๆ