วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

พระกริ่งนอกเนื้อเปียกทองยุคต้น

 


พระกริ่ง หรือพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตพุทธเจ้า เป็นหนึ่งในพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน คติความเชื่อของฝ่ายมหายาน เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีมากหลายพระองค์ แต่ที่สำคัญมี 3 พระองค์คือ
1. พระศากยมุนีพุทธเจ้า(พระยูไล)
2. พระอมิตาภะพุทธเจ้า ซึ่งชาวพุทธมหายานทั่วโลก เวลาทักทายกันจะเอ่ยคำว่า "อามิตาพุทธ" ซึ่งเป็นการเอ่ยพระนามของพระองค์ 
3. พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ผู้ทรงช่วงเหลือมวลมนุษย์ ด้วยมหาปณิธาน 12 ประการ เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ บันดาลให้ผู้กราบไหว้พ้นจากโรคภัย ไข้เจ็บต่างๆ ประทานโชคลาภความร่ำรวย และคุ้มครองดวงชะตา ให้แคล้วคลาดปลอดภัย

พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า จึงเป็นพระนิรันตรายของฝ่ายมหายาน

ด้วยเหตุแห่งความเคารพศรัทธาในพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ดังนั้นเวลาเราไปวัดจีน เช่น วัดโพธิ์แมนคุณาราม วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดในประเทศจีน เราจะสังเกตเห็นในพระอุโบสถ ตั้งพระประธาน 3 พระองค์

พระกริ่งเข้ามาสู่ประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่มีการค้นพบพระกริ่งที่เมืองเก่าสุโขทัยหลายองค์ แสดงให้เห็นว่า การบูชาพระกริ่งนั้น มีมาตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแล้ว 

พระกริ่งจากประเทศจีนซึ่งมีพุทธลักษณะ ที่แตกต่างไปจากพระกริ่งใหญ่ มีการแต่งองค์พระให้สวยคมมาก เอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือเป็นพระที่เปียกทองซึ่งแตกต่างจากพระกะไหล่ทองในยุคปัจจุบันนี้

กรรมวิธีการเปียกทอง ในสมัยโบราณนั้นจะนำพระที่แต่งผิวเรียบร้อยแล้วจึงนำน้ำยาปรอททาลงบนองค์พระให้ทั่วองค์พระหลายๆชั้น และตากลมให้แห้งพร้อมกับนำน้ำทองคำบริสุทธิ์ เป็นน้ำทองทาทับผิวปรอทจนทั่ว เมื่อน้ำทองติดหนาดีแล้ว จึงนำองค์พระไปเผาไฟบนตะแกรงเหล็ก เมื่อปรอทเจอความร้อนจะระเหยตัวออก เหลือแต่แผ่นทองคำติดแน่นบนผิวสัมฤทธิ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อทองเหลืองเท่านั้น เสร็จแล้วให้พระเย็นลง เริ่มทาปรอทใหม่ ทาทับด้วยน้ำทองใหม่ แล้วนำไปเผาไฟไล่ปรอทอีก ทำเช่นนี้หลายๆครั้ง จะได้พระกริ่งเนื้อสัมฤทธิ์ที่เปียกทองจนทองหนาทั่วทั้งองค์ เราเรียกวิธีการนี้ว่า "เปียกทอง"

ปัจจุบันน่าจะเลิกทำกันหมดแล้ว เพราะเป็นอันตรายต่อคนสร้างมาก สูดดมกลิ่นปรอทเข้าตัว ทำให้เสียชีวิตได้ง่าย ประกอบกับในสมัยยุคหลังมีกรรมวิธี "กะไหล่ทอง" ด้วยระบบน้ำยาและไฟฟ้า ง่าย ประหยัดและปลอดภัยกว่ามาก

พระกริ่งจีนที่เป็นเปียกทอง จะมีค่ามาก เพราะเป็นพระกริ่งจีนยุคต้น ที่ก้นขององค์พระ จะมียันต์ หนังสือจีน เป็นตัวหนังสือ "ซังฮี้" แปลว่า "มีความสุขคู่กัน"

ส่วนพระกริ่งจีนบางองค์ที่ใต้ฐานมีตรามังกรห้าเล็บ จะเป็นพระกริ่งที่ฮ้องเต้สร้างขึ้นเอง 

ปัจจุบันพระกริ่งชนิดเปียกทองหาชมได้ยากมาก 

พระกริ่ง องค์อื่นๆ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น